วิจารณ์พานิช ให้ความหมายว่าการจัดการความรู้ หมายถึง การรวบรวม การจัดระบบ การจัดเก็บ
และการเข้าถึงข้อมูล เพื่อสร้างเป็นความรู้เทคโนโลยีด้านข้อมูลและด้านคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือช่วยเพิ่มพลังในการจัดการความรู้ แต่เทคโนโลยีด้านข้อมูลและคอมพิวเตอร์โดยตัวของมันเองไม่ใช่การจัดการความรู้
Ikujiro Nonaka (1994 : 14-37 อ้างถึงในธเนศ เกสรสิริธร 2555 : 8) นักจัดการความรู้ได้จำแนกความรู้ออกเป็น
2 ประเภท และให้คำจำกัดความไว้เบื้องต้นที่ค่อนข้างเป็นรูปธรรม ซึ่งนักการจัดการความรู้ใหม่ๆ จะต้องทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งเพราะจะเป็นพื้นฐานในการจัดการความรู้ คือ
1. Explicit Knowledge เป็นความรู้ที่ปรากฏและมองเห็นได้ชัดเจน สามารถจัดทำออกมาในรูปแบบของเอกสาร คู่มือหรือสื่อต่างๆ และสามารถถ่ายทอดหรือรวบรวมได้ง่าย เช่น เอกสาร หนังสือ วีซีดี เทป ฐานข้อมูล เรียกว่ารูปแบบรูปธรรม
2. Tacit Knowledge เป็นความรู้ที่ไม่ปรากฏชัดแจ้ง ถูกฝังลึกและซ่อนเร้นอยู่ในตัวบุคคล โดย Tacit Knowledge อาจเกิดจากประสบการณ์ การเรียนรู้หรือพรสวรรค์ (Talent) การถ่ายทอดหรือสื่อสารในรูปแบบของตัวเลขหรือตัวอักษรอาจทำได้ยาก
![]() |
Davenport |
![]() |
Prusak |
Davenport and Prusak (1988) ความรู้ หมายถึง ส่วนผสมของกรอบประสบการณ์ คุณค่า สารสนเทศ
ที่เป็นสภาพแวดล้อมและกรอบการทำงานสำหรับการประเมินและรวมกันของประสบการณ์และสารสนเทศใหม่"
Hideo Yamazaki นักวิชาการชาวญี่ปุ่น
ได้ให้นิยามของคำว่า “ ความรู้” คือ สารสนเทศที่ผ่านกระบวนการคิดเปรียบเทียบ
เชื่อมโยงกับความรู้อื่น จนเกิดเป็นความเข้าใจและนำไปใช้ประโยชน์ในการสรุป
และตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ โดยไม่จำกัดช่วงเวลา
Peter Drucker เชื่อว่า
หัวใจของการสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้อยู่ที่การเสริมสร้างวินัย 5
ประการให้เกิดขึ้น ได้แก่
1. บุคลากรชั้นเลิศ (Personal mastery)
2. มีวิสัยทัศน์ร่วมกัน (Building shared vision)
3. มีแบบแผนความคิดร่วม (Mental models)
4. เรียนรู้เป็นทีม (Team learning)
ประเวศ วะสี การจัดการให้มีความรับรู้ความจริง สร้างความรู้
สังเคราะห์ความรู้ให้เหมาะสมกับงาน และ ความรู้คือชีวิต ชีวิตคือการศึกษา
ยืนที่เดียวกัน แต่ว่าการมีความรู้ในโลกปัจจุบันนี้ชีวิตก็อย่างหนึ่ง
การศึกษาก็อย่างหนึ่ง แล้วการศึกษาก็เอาวิชาเป็นตัวตั้ง
ตรงนี้นี่การปฏิบัติคือพยายามย้ายการศึกษาจากการท่องเขียนให้มาอยู่ในวิถีชีวิตร่วมกัน
และเรียนรู้จากวิถีชีวิตร่วมกันให้มากที่สุด
Peter Senge (1990) เชื่อว่า หัวใจของการสร้างองค์การแห่งการเรียนรู้อยู่ที่การเสริมสร้างวินัย 5 ประการ
ให้เกิดผลจริงจังในรูปของการนำไปปฏิบัติ แก่บุคคล ทีม
และองค์การอย่างต่อเนื่องและทุกระดับ โดย Sengeได้ให้คำนิยามของ ”องค์การแห่งการเรียนรู้” ว่า “เป็นองค์การที่ผู้คนต่างขยายขีดความสามารถเพื่อสร้างผลงานที่ต้องการสร้างอนาคต”คือ
1: ความรอบรู้แห่งตน (Personal
Mastery)วินัยประการที่
2: แบบแผนความคิดอ่าน (Mental
Models) วินัยประการที่
3: วิสัยทัศน์ร่วม (Shared
Vision)วินัยประการที่
4: การเรียนรู้ของทีม (Team
Learning)วินัยประการที่
5: การคิดอย่างเป็นระบบ(Systematic
Thinking)
การจัดการความรู้โดยใช้ปลาทูโมเดล (TUNA MODEL) ของ ดร.ประพันธ์ ผาสุขยืด. (2549)
การจัดการความรู้โดยใช้ปลาทูโมเดล (TUNA MODEL) ของ ดร.ประพันธ์ ผาสุขยืด. (2549)
โมเดลปลาประกอบไปด้วย 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนหัว ส่วนตัว และส่วนหาง
ส่วนหัวปลา เรียกว่า KV ย่อมาจาก Knowledge Vision หมายถึงส่วนที่เป็นวิสัยทัศน์ หรือเป็นทิศทางของการจัดการความรู้ กล่าวคือ ส่วนหัวจะทำหน้าที่มองว่ากำลังจะไปทางไหนต้องตอบได้ว่า "ทำ KM ไปเพื่ออะไร"
ส่วนตัวปลา เรียกว่า KS ย่อมาจาก Knowledge Sharing หมายถึงส่วนที่เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจ และเป็นส่วนที่ยากลำบากที่สุดในกระบวนการทำ KM เพราะต้องเกิดจากปัจจัย และสิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมให้คนพร้อมที่จะแบ่งปันและเรียนรู้ร่วมกัน
ส่วนหัวปลา เรียกว่า KV ย่อมาจาก Knowledge Vision หมายถึงส่วนที่เป็นวิสัยทัศน์ หรือเป็นทิศทางของการจัดการความรู้ กล่าวคือ ส่วนหัวจะทำหน้าที่มองว่ากำลังจะไปทางไหนต้องตอบได้ว่า "ทำ KM ไปเพื่ออะไร"
ส่วนตัวปลา เรียกว่า KS ย่อมาจาก Knowledge Sharing หมายถึงส่วนที่เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจ และเป็นส่วนที่ยากลำบากที่สุดในกระบวนการทำ KM เพราะต้องเกิดจากปัจจัย และสิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมให้คนพร้อมที่จะแบ่งปันและเรียนรู้ร่วมกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น